อานิสงส์แห่งการบูชา..


ขึ้นชื่อว่าบุญนั้นไม่มีคำว่าเล็กน้อยเลย
แต่ย่อมส่งผลตลอดต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกที่ทำไปตราบเข้าสู่พนะนิพพานทีเดียวนะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ 
จงปลื้มแสนปลื้ม...ปลื้มพันล้านปลื้ม..
ปลื้มไว้ในกลางใจใสๆ ของเราทุกดวง..
ปลื้มไว้ตราบนิจนิรันดร์ เทอญฯ
สาธุ นิพพานปัจจโย โหตุ ๚
--------------------------
เรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ไม่เคยมีปรากฏมาเลยว่า บุคคลผู้ที่มีจิตเลื่อมใสได้กระทำการบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้ของหอมแล้ว จะนำพาบุคคลนั้นไปสู่อบายได้ หากบุคคลนั้นไม่ได้ทำอนันตริยกรรม คือ กรรมอันหนัก ๕ ประการ กรรมนั้นย่อมส่งผลให้ไปสู่สุคติแต่เพียงฝ่ายเดียว

ปุนนาคปุปผิยเถราปทานที่ ๙ (๑๕๙)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกบุนนาค

เราเป็นนายพรานเข้าไปสู่ป่าใหญ่ ได้เห็นดอกบุนนาคกำลังบาน จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด.ได้เก็บเอาดอกบุนนาคนั้น อันมีกลิ่นหอมตลบอบอวลแล้ว ได้ก่อสถูปที่กองทรายบูชาแด่พระพุทธเจ้า.

ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น
>> เราไม่รู้จักทุคติเลย << นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา.

ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งมีนามว่าตโมนุทะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

------------------------------------------------------

มีวาระพระบาลีใน “ปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน” ว่า
“ผู้ใดพึงบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ยังดำรงพระชนม์อยู่ก็ดี พึงบูชาพระธาตุแม้ประมาณเท่าเมล็ดผักกาดของพระพุทธเจ้าแม้นิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิตอันเลื่อมใสของผู้นั้นเสมอกัน บุญก็มีผลมากเสมอกัน”
การบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นการบูชาอันสูงสุด เพราะพระองค์เป็นสุดยอด ของบรรดาผู้ควรบูชาทั้งหมด เสมือนเขาพระสุเมรุเป็นประมุขของบรรพตทั้งหลาย

------------------------------------------------------

พระอัครสาวกอีกรูปหนึ่ง มีชื่อว่า สาคระ ได้เห็นยักษ์ตนหนึ่งกำลังเศร้าโศก จึงได้ปลอบโยนและเทศน์ให้ฟังว่า

"ผู้ใดพึงบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ยังดำรงพระชนม์อยู่ก็ดี พึงบูชาพระธาตุ แม้ประมาณเท่าเมล็ดผักกาดของพระพุทธเจ้า แม้นิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิตอันเลื่อมใสของผู้นั้นเสมอกัน บุญมีผลมากเสมอกัน"

เพราะฉะนั้นท่านจงบูชาพระสถูปเจดีย์ของพระชินเจ้าเถิด ยักษ์ฟังแล้ว เกิดแรงบันดาลใจ ได้แวะเวียนไปกราบไหว้พระเจดีย์ และทำจิตให้เลื่อมใส ในพระพุทธเจ้า เจริญพุทธานุสติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ทั้งวันและคืน ทำเช่นนั้นตลอด ๕ ปี ครั้นละจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปบังเกิดในสวรรค์เป็นเวลายาวนาน ในกัปที่ ๗๐๐ นับจากภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามเดียวกันถึง ๔ ครั้งว่า ภูริปัญญา สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ

>> ตั้งแต่นั้นท่านไม่เคยไปเกิดเป็นยักษ์อีก ได้เวียนวนอยู่ในสุคติภูมิเพียงอย่างเดียว นี่เป็นอานิสงส์ที่เกิดจากการบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งแม้จะดับขันธปรินิพพานไปแล้ว อานิสงส์แห่งความเลื่อมใสนั้น ก็ไม่ลดน้อยถอยลงไป ผลนั้นยังส่งต่อมาถึงภพชาติสุดท้าย ทำให้ท่านได้ออกบวชและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด <<


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

จัดดอกไม้แบบทรงพุ่มเล็กและใหญ่เหมาะสมกับงานพิธีต่างๆ

รวบรวมภาพและเรื่องราวชาวเลเกาะลันตาบ้านโต๊ะบาหลิวกระบี่

วัดน้อยนพคุณ : บนพื้นที่อันร่มรื่นของพื้นที่ดุสิต ถนนพระราม๕